หากเอ่ยชื่อ "สามารถ พยัคฆ์อรุณ" ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา คงเชยสะบัดหากไม่มีใครรู้จัก..!?
"อัจฉริยะหย้าหยก" อย่างเขา ไม่เพียงแต่เก่งกาจในเชิงหมัดมวยบนเวทีเท่านั้น เมื่อก้าวเข้าสู่เส้นทางบันเทิง ทั้งวงการเพลง ละครทีวี ไปจนถึงภาพยนตร์ ชีวิตขอเขาก็ดูจะประสบความสำเร็จไปเสียทุกเรื่อง

เกิดวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2505 เป็นคนดวงดีมีพรสวรรค์ มีความสามารถชนิด ในหนึ่งศตวรรษ ก็ยังยากจะหาใครมาเปรียบ..!!

ชกมวยไทย ด้วยลีลาจอมถีบอันดับหนึ่งของประเทศ ก็คว้าแชมป์ไปครองถึง 4 รุ่น ชกมวยสากลอาชีพ ก็ซิวแชมป์โลกซูเปอร์แบนตั้มเวท WBC มาครองแบบพลิกความคาดหมาย ป้องกันแชมป์ครั้งแรก ก็โชว์สายตาโยกหลบ 16 หมัดรวดเดียวชนิดที่ยากจะมีใครเลียนแบบ หันไปเล่นหนังก็ยังสร้างปรากฏการณ์ประหลาด คว้าตุ๊กตาทอง จากเรื่อง"ขยี้" ที่ไม่เคยมีใครได้ดูชม แต่ชีวิตคนไม่ต่างกับบทละคร มีขึ้น มีลง เคยโดนทั้งข้อกล่าวหา "ล้มมวย" ขายชาติ ไปจนถึงเสพยา"สมุนไพร"ที่ผิดกฏหมาย ชีวิตครอบครัวเคยมีปัญหา ต้องหย่าร้างกับภริยาคู่ทุกข์คู่ยากกันมาร่วมยี่สิบปี นับว่า...ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมาย

ชีวิตวันนี้ ในวัย 46 ปีของพยัคฆ์มาด หยุดพักลงเปิดใจกับ"ข่าวสด" ด้วยการเปิดคฤหาสน์หลังงาม ใจกลางกรุง ย่านซอยสายไหม 31 ด้วยพื้นที่ประมาณ 1 ไร่ เป็นบ้านเดี่ยวสองชั้นสองหลังอยู่เคียงกัน ติดริมน้ำด้วยบรรยากาศร่มรื่นเย็นสบาย และเงียบสงบ หลังหนึ่งปลูกไว้ให้"ว่าที่"พ่อตาแม่ยาย และอีกหลังก็เป็นเรือนหอของตัวเอง กับ "น้องหญิง"วลัยทิพย์ ภพธีรธรรม "ว่าที่"ภริยาแสนสวย วัย 27 ปี "เราจะแต่งงานกันในวันที่ 9 พ.ย.นี้ ตอนเช้าก็จะทำบุญเลี้ยงพระ ทำพิธีขึ้นบ้านใหม่เสียก่อน เพราะบ้านหลังนี้ย้ายมาเกือบปีแล้วและเพิ่งจะสร้างเสร็จ จากนั้นก็ผูกข้อไม้ข้อมือกัน ตอนเย็นก็จึงจะเป็นงานเลี้ยงแต่งงาน" เสียงบรรยายเหน่อๆ แต่ใสซื่อตามสไตล์ของคนย่านฝั่งตะวันออก

"บ้านทั้งสองหลังและเนื้อที่เหล่านี้ คิดเป็นเงินก็มูลค่า 10 ล้านกว่าบาท ได้เงินมาจากการขายที่ดินที่ระยอง ซึ่งเป็นผลพวงมาจากเงินที่เก็บหอบรอมริดไว้ตั้งแต่ครั้งชกมวยทั้งสิ้น ครูตุ้ย(ยอดธง เสนานันท์) แกเป็นคนแนะนำและจัดการไว้ให้หมดในสมัยนั้น ถึงจะผ่านงานมาหลายอาชีพ แต่ผมได้เต็มปากเลยครับว่า สมบัติเหล่านี้ได้มา จากการชกมวยล้วนๆทั้งนั้นแหละ"

"ถึงจะเคยร้องเพลง เล่นหนังมาเยอะ แต่สำหรับผมแล้ว มวยนั่นแหละ ที่บอกความเป็นตัวของเราเองมากที่สุด เล่นหนังหน่ะ..มันเป็นการแสดง แต่การชกมวยมันเป็นธรรมชาติโดยแท้ของเรามากกว่า คนทุกคนมีอาชีพนะ ไม่ว่าจะทำอะไร แต่ถ้าไม่เล่นการพนัน เสียอย่าง ก็จะทำให้เรามีเก็บ นักมวยหนุ่มๆสมัยก่อนคิดว่า ชกเสร็จเดี๋ยวก็หาเงินใหม่พอได้มาเท่าไหร่ก็กิน เที่ยวจนหมด เพราะเขาคิดกันอย่างนั้น เมื่อถึงบั้นปลายจึงลำบาก ลำพังจะไปหวังพึ่งสถาบัน หรือองค์กรใดๆช่วยเหลือยามแก่เฒ่า ผมว่ามันคงไม่มีประโยชน์เท่าไหร่หรอก เราเองต้องพึ่งตัวเองเป็นสำคัญ จึงอยากฝากเตือนสติถึงนักมวยรุ่นน้องๆด้วย"


ติดตาม อ่าน ภาคเต็มๆ ในหนังสือ มวยตู้ เร็วๆ นี้ ดีฝ่าคับ !?!?

-- Edited by webmaster at 11:03, 2008-11-01