หากจะคุยถึงเรื่องกีฬา มวยสากลสมัครเล่น นั้นไม่ว่าจะเป็นในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ หรือ ทัวร์นาเม้นต์ชิงแชมป์โลก ทั่วโลกก็คงให้การยอมรับ และยกย่องให้ คิวบา เป็นหนึ่งโดยมิต้องสงสัย ซึ่งแม้แต่ มหาอำนาจตลาดมวยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่าง สหรัฐ ก็ยังมิอาจเทียบเคียงได้

กลไกแห่งความสำเร็จอันนำมา ซึ่งการยอมรับนั้น ผู้คนส่วนใหญ่คงพากันทึ่ง แต่จะมีใครบ้างก็จะพลอยนึกฉงน หรือเฉลียวใจว่า เอะทำไมจึงเป็นเช่นนั้น อะไรหนอที่ทำให้ วงการมวยของคิวบาจึงยิ่งใหญ่เสียเหลือเกินในมหกรรมกีฬาของโลกอย่างโอลิมปิก

ทว่า ความจริงแล้วหากพลิกปูมประวัติย้อนหลังกลับไป จะพบว่า คิวบา เพิ่งจะประสบความสำเร็จในการแข่งขันกีฬามวยสากลสมัครเล่น ในโอลิมปิกเกมส์ 1972 ที่เมืองมิวนิค เยอรมนี เป็นครั้งแรก หนึ่งในสองเหรียญทองแชมป์มวยสมัครเล่นที่โด่งดังเป็นที่ยอมรับ ก็คือ เทียวฟิโล สตีเวนสัน ถือเป็นการจุดประกายความเป็นมหาอำนาจมวยคิวบาตั้งแต่นั้นสืบมา ทั้งนี้เพราะ ฟิเดล คาสโตร ผู้นำเผด็จการเองก็ชื่นชอบและให้การสนับสนุน การพัฒนาอย่างเต็มที่ รัฐบาลจะให้บ้านให้รถ ให้ความเป็นอยู่ที่ดีแก่ผู้ที่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศ โชคหนุนซ้ำในโอลิมปิก ปี ค.ศ.1980 ที่มอสโกว์ สหภาพโซเวียตเป็นเจ้าภาพ เมื่อสหรัฐบอยคอตไม่เข้าร่วมการแข่งขัน ก็ยิ่งทำให้คิวบาไร้คู่ต่อกรที่สำคัญ จนประกาศศักดากวาดเหรียญทองไปครองอย่างยิ่งใหญ่ และนับแต่นั้นมา ทีมขุนพลเสื้อกล้ามของคิวบาก็กลายเป็นเต็งหนึ่งมาตลอด

ปัจจัยสำคัญประการแรกที่ คิวบา เป็น"เต้ย"ในเชิงมวยสมัครเล่น ก็เพราะ คิวบา เป็นชาติที่มีการลงทุนและได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลมากกว่าชาติอื่นๆ อีกสาเหตุหนึ่งก็เพราะคิวบาไม่มีตลาดมวยอาชีพรองรับ เหมือนอย่างสหรัฐ หรือชาติอื่นใดในโลก ยิ่งในอดีตไม่มีการจำกัดอายุของนักกีฬา ลูกน้องของผู้นำเผด็จการก็ยิ่งชิงความได้เปรียบพกความเก๋าและประสบการณ์ ขึ้นสังเวียนได้ถึงสามสี่สมัย สร้างชื่อเสียงต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็น เทียวฟิโล สตีเวนสัน ,มาริโอ คินเดลัน ฯลฯ ขณะที่นักชกหนุ่มๆชาติอื่นๆอย่างสหรัฐ ต่างก็หันเหขึ้นเทิร์นโปร ชกอาชีพกันหมด

และปัจจัยสำคัญที่สุดอีกประการ ก็คือ การที่ คิวบาสามารถเปลี่ยมโฉมหน้า วงการมวยสากลสมัครเล่นได้อย่างถาวร ถือเป็นจุดหักเหที่สำคัญ นั่นคือการโน้มน้าวให้ ไอบ้า องค์กรมวยผู้รับรองจัดการแข่งขัน หันมาเน้นรูปแบบ "มวยสมัครเล่น" ให้แตกต่างไปจาก "มวยสากลอาชีพ" จากเดิมที่เห็นว่า "ผู้ชนะ..คือคนที่ต้องชกได้มากกว่าเท่านั้น" มาเป็น "ผู้ชนะคือคนที่ชกถูกแล้วจะต้องไม่ถูกชก"

และเมื่อไอ้บ้ายอมรับในจุดนี้ จึงถือเป็นจุดผลิกผันให้เกิดที่มาของมวย "คิวบันสไตล์" ขึ้น ซึ่งแน่นอนว่า ในเวลาต่อมาถึงนักมวยผู้นั้นจะประสบความสำเร็จในโอลิมปิก แต่ส่วนใหญ่ก็มักไม่สมหวังในการเทิร์นโปรชกอาชีพ แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลก !?!?

คิวบา ถือเป็นแม่แบบของ สไตล์การชกมวยสมัครเล่นของไอบ้า และไทยเองก็ถือเป็น "อนุพันธุ์ ของคิวบันสไตล์" ที่แตกต่างกับมวยสไตล์ของสหรัฐ หรือ ทวีปยุโรป มวยอย่างสมรักษ์ คำสิงห์ ,มนัส บุญจำนงค์ ก็ล้วนได้รับการขัดเกลาฝีมือจากโค้ชคิวบาทั้งสิ้น

จึงไม่ใช่เรื่องแปลก..ว่า หากมีคำถามขึ้นในใจ ว่าทำไม คิวบา จึงเป็นเจ้าเหรียญทองของมวยสมัครเล่น ในปัจจุบัน!!

-- Edited by webmaster at 13:16, 2008-08-20