การแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นปักกิ่งเกมส์ ที่สนามเวิร์กเกอร์ สเตเดียม รุ่นไลท์เวลเตอร์เวท พิกัดไม่เกิน 64 กก. รอบ 8 คนสุดท้าย หากใครชนะจะได้เหรียญทองแดงตุนไว้ในกำมือทันที เพราะจะได้สิทธิเข้าไปเล่นในรอบรองฯต่อไป มนัส บุญจำนงค์ นักชกไทยอดีตเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ เมื่อสี่ปีที่แล้ว ครั้งนี้ถูกวางตัวเป็น "เต็ง 2" พบ เซริก ซาปิเยฟ ดีกรีแชมป์โลกจากคาซักสถาน ที่ถูกยกให้เป็น"เต็ง 1" ในทัวร์นาเม้นต์นี้ แม้ว่าในอดีตเซปิเยฟจะเคยแพ้มนัสมาแล้วครั้งหนึ่ง สำหรับการชกวันนี้มีขึ้นในเวลา 18.00 น.ตามเวลาไทย

มนัสขึ้นชกทางมุมน้ำเงินเป็นมวยถนัดขวา ขณะที่ ซาปิเยฟ เป็นมวยเซาว์ปอว์ถนัดซ้าย เริ่มต้นยก มนัสชิงออกหมัดก่อนทำแต้มขึ้นนำทันที 1 คะแนน กลางยกมนัสขว้างขวาตรงเข้ากกหูซาปิเยฟ นำเป็น 2-0 นักชกไทยพยายามชิงออกหมัดก่อน จากนั้นเต้นหนีฉากออกซ้ายขวาไม่ยืนเป็นเป้านิ่ง ซาปิเยฟ ยิงซ้ายตรงเข้าเต็มหน้าทำแต้มไล่ขึ้นมาเป็น 1-2 ก่อนหมดยกแรก นักชกคาซักฯ ยังรุกไล่เข้าหา มนัสก็พยายามเต้นหนีไปรอบเวทีไม่อยู่นิ่ง หมดยกแรก มนัสนำอยู่ 2-1

เริ่มยกสอง ต้นยกมนัสรีบทิ้งขวาเข้าใส่ทันที แต่แต้มก็ยังไม่ขยับ ซาปิเยสยังคงรุกไล่เข้าหา มนัสพยายามการ์ดสูงบล็อกหมัด เน้นกอดลำตัวไม่ให้คู่ชกออกอาวุธได้ถนัด จนกรรมการต้องเตือนมนัส ซาปิเยฟยังคงเดินปรี่เข้าหา มนัสรอจังหวะบวกหมัดขวาเข้าปลายคางได้แต้มจังๆ นำห่างอีกเป็น 3-1 รูปเกมยังคงนัวเนียพัวพันกันเป็นส่วนใหญ่ โดยมนัสพยายามใช้แท็กติกรบกวนกอดรัดไม่ให้ซาปิเยฟ ออกหมัดได้ถนัด ในยกที่สองนี้กรรมการให้แต้มเพียงแค่คะแนนเดียวเท่านั้น แต่ก็ทำให้มนัสยังนำอยู่ 3-1

ยกที่สาม ผ่านไปอึดใจมนัสยืนรอซาปิเยฟที่เดินเข้าหา อดีตเหรียญทอง"เอเธนส์เกมส์"บวกหมัดเต็มหน้าทำแต้มหนีอีกครั้งเป็น 4-1 ก่อนหันมากอดรัดแต่ก็เจอหมัดบวกถูกซาปิเยฟไล่มา 2-4 ก่อนกรรมการจะหันมาเบรกการชก และตัดแต้ม มนัส ที่พยายามกอดรัดคู่ชกเป็นส่วนใหญ่ ทำให้สกอร์ไล่มาเท่ากัน 4-4 (ตามกฏต้องบวก 2 แต้มให้คู่ชก) แต่อึดใจต่อมามนัสก็ชิงออกหมัดเหวี่ยงซ้ายเข้าเป้า ทำแต้มหนีอีกครั้งเป็น 5-4 นักชกคาซักฯยังคงเดินหน้ารุกไล่ไม่หยุด ทำเอามนัสโงนเงน แต่ก็พยายามกอดรัด ออกอาการป้อแป้เห็นได้ชัด ทว่าคะแนนก็ยังไม่ขยับ ช่วงสองวินาทีสุดท้าย ซาปิเยฟทิ้งขวาอีกหมัดเข้าหน้ามนัสจังๆ ทำแต้มขึ้นมาเท่ากัน 5-5 บีบคั้นหัวใจแฟนมวยทั้งในและนอกสนามที่ชมการถ่ายทอดสด

ยกที่สี่ยกสุดท้าย ทันทีที่ระฆังให้สัญญาณ ซาปิเยฟ อดีตแชมป์โลกสองสมัย ดูมั่นใจมากขึ้น ขณะที่กรรมการไล่ให้มนัสกลับเข้ามุมไปเช็ดใบหน้าให้แห้ง เพราะพี่เลี้ยงให้น้ำเยอะเป็นการถ่วงเวลา ก่อนออกมาชกกันใหม่ จังหวะรัวหมัดแลกกันอุตลุตมนัสก็ยังได้แต้มนำ 6-5 ซาปิเยฟไม่ท้อเดินบี้หนักๆแทบไม่หายใจหายคอ แต่มนัสก็ยังปักหลักรอบวกจังหวะสอง ก่อนจะการ์ดสูงพยายามกอดรัดคู่ชกพัลวัน ล่วงเข้าครึ่งทาง กรรมการหันมาดุพี่เลี้ยงทางฝ่ายไทยให้เบาเสียงเชียร์ ก่อนปล่อยให้ชกต่อ มนัสปักหลักแลกหมัดอีกชุดใหญ่ แต่คะแนนก็ยังไม่ขึ้น จนเข้าช่วงท้ายเกม มนัสได้อีกแต้มหนีเป็น 7-5 ช่วงสิบห้าวินาทีสุดท้าย มนัสรู้ตัวเป็นต่อ รีบตีกรรเชียงหนี ขณะที่ซาปิเยฟแทบจะวิ่งเข้าใส่ จนระฆังหมดยก นักชกไทยจึงเป็นฝ่ายชนะคะแนน 7-5 มนัสซึ่งรู้ตัวว่าชนะแน่ถึงกับล้มตัวลงนอนคว่ำแผ่หรากลางเวที เพราะหมดแรง

ชัยชนะนัดนี้ยังสร้างประวัติศาสตร์ให้มนัส บุญจำนงค์ กลายเป็นนักกีฬาโอลิมปิกไทยคนแรกที่ได้เหรียญรางวัลกลับบ้านสองสมัยแน่นอนแล้ว สำหรับในรอบรองชนะเลิศ มนัสจะต้องไปพบกับ อิเกลสเซียส โซโตลองโก้ โรเนียล จากคิวบา ที่เอาชนะ โควาเลฟ เกนนาดี้ จากรัสเซีย 5-2 คะแนน

-- Edited by webmaster at 09:06, 2008-08-18