อังคาร ชมภูพวง ขุนพลเสื้อกล้ามทีมมวยสากลสมัครเล่นของไทย ขึ้นเวทีประเดิมกำปั้นเป็นคนแรกของทีมมวยไทย เผชิญหน้ากับ โช เดือก จิน นักชกโสมขาว เกาหลีใต้ พิกัดไม่เกิน 75 กิโลกรัม ที่สังเวียนเวิร์คเกอร์ยิมเนเซียม กรุงปักกิ่ง วันที่ 9 ส.ค.

ก่อนหน้านี้เคยให้สัมภาษณ์ว่าอยากจะชกนัดแรกเลยไม่อยากได้บาย ก็ได้ชกสมใจอยาก พร้อมกับเผยว่ายินดีเป็นอย่างมากที่จะได้ขึ้นเวทีชกเป็นคนแรกของทีมชาติไทย และสภาพร่างกายตอนนี้ก็พร้อมอย่างถึงที่สุดแล้ว มั่นใจว่าจะสามารถประเดิมชัยให้กับทีมกำปั้นไทยได้แน่ ขอให้พ่อแม่พี่น้องชาวไทยคอยติดตามเชียร์และให้กำลังใจด้วยก็แล้วกัน
อังคาร ซึ่งชกมวยไทยในชื่อ ผจญศึก ลูกพระบาท อายุ 27 ปี อยู่มุมน้ำเงินก้าวขึ้นเวทีด้วยความมั่นใจ ขณะที่โช เดือก จิน จากเกาหลีใต้อายุ 25 ปี เริ่มยกแรก อังคารเป็นฝ่ายเต้นวนออกข้างรอบวกจังหวะสอง ขณะที่นักชกโสมขาวขยับเข้าหาแบบย่ามสามขุม เกมผ่านไปนาทีแรกแต้มก็ยังไม่ขยับเพราะต่างฝ่ายคอยระมัดระวังตัว อังคารเน้นเข้ากอดทำลายจังหวะเป็นส่วนใหญ่ ทั้งคู่เป็นมวยการ์ดขวา อังคารตบฮุคซ้ายจังๆหนึ่งหมัดแต่แต้มก็ยังไม่ขยับ หมดยกแรกสกอร์ยังคง 0-0 โดยไม่มีใครได้คะแนน

ยกที่สอง โช เต้นมากขึ้นรอจังหวะบวกบ้าง ขณะที่อังคารก็ไม่บุ่มบ่ามพยายามเน้นแย๊ปแล้วโดดเข้ากอด จนกรรมการต้องเตือนการชกผ่านนาทีแรกของยกที่สองไป อังคารจึงได้แต้มแรกขยับขึ้นนำ 1-0 เรียกเสียงเฮจากผู้ชม ใกล้หมดยกอังคารยิ่งขวาเข้าลำตัวจังๆ เรียกคะแนนที่สองตามมา ก่อนเต้นวนออกข้างให้ นักชกโสมเดินหน้าไล่ หมดยกที่สอง อังคาร ขึ้นนำ 3-0 ยกที่สาม โช ปรี่เข้าใส่ทันทีเพราะรู้ว่าแต้มเป็นรอง แต่อังคารก็ยังกอดรัดทำให้โชออกหมัดไม่ถนัด จนกรรมการต้องเตือนนักชกไทย แถมยังหันมาตัดแต้มอังคาร ทำให้คะแนนของโช ไล่ขึ้นมาเฉยๆ 3-2 ตามกฏที่จะต้องบวกคะแนนในคู่ชกฟรีๆสองแต้ม อังคารจึงเร่งออกหมัดมากขึ้น ยิงแย๊ปซ้ายลำตัวจังๆ ทำแต้มนำอีกครั้ง 4-2 ล่วงเข้าช่วง 20 วินาทีสุดท้าย โชต่อยต่ำหนึ่งหมัด กรรมการเตือนนักชกโสมบ้างพร้อมตัดแต้ม ทำให้นักชกไทยได้แต้มนำห่างเป็น 6-2 ขึ้นยกที่สี่ยกสุดท้าย โช ปรี่เข้าหาขว้างหมัดเข้าใส่ แต่อังคารก็ยิงหมัดขวาสวน คะแนนนำเป็น 7-3 แถมอังคารยังเล่นจังหวะกอดรัด แถมออกหมัดก่อนจากได้แต้มหนีเป็น 8-3 นักชกโสมไล่เข้าหาก็โดนปล้ำฟัดล้มลงไปด้วยกันทั้งคู่ ล่วงเข้าช่วง 30 วินาทีสุดท้าย อังคารเน้นจังหวะสองถอยหนีก่อนขว้างหมัดขวาเข้าใส่ แบบลักต่อย ครบสี่ยก อังคาร ชมภูพวง เอาชนะคะแนน โช เดือก จิน จากเกาหลีใต้ ไปแบบสบายๆ 9-3
เป็นการประเดิมชัยคนแรกจากทั้งหมด 8 คน สำหรับทีมนักชกไทยในโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้
หลังการชก อังคาร กล่าวว่า วันนี้ยังชกไม่ดี ต่อยไม่ถนัด ไม่ค่อยพอใจผลงานของตัวเองเท่าไหร่ อีกทั้งนักมวยเกาหลีก็ต่อยยาก ไฟต์ต่อไปเจอกับ คูมาร์ วีเจนเดอร์ มวยอินเดียจะพยายามทำให้ดีขึ้น นักชกอินเดียรายนี้เคยเอาชนะมาแล้ว มั่นใจว่าจะต้องทำได้อีกครั้ง
ด้าน พล.อ.ทวีป จันทรโรจน์ นายกสมาคมมวยสมัครเล่นฯ เผยว่า การชกของอังคารวันนี้ มวยเกาหลีเตรียมตัวมาดี แก้ทางเรามา จึงบล็อกหมัดของอังคารได้ ทำให้ชกลำบาก ผลที่ออกมาก็ถือว่าโอเค เป็นการเปิดหัวให้กับทีมมวยไทยได้ดี แต่รอบต่อไปเห็นเชื่อว่าเป็นอินเดียนั้นไม่ง่าย เพราะ คูมาร์ คนนี้ถือเป็นมวยอันดับต้นๆในรุ่นนี้ เคยได้เบสบ็อกเซอร์ชิงแชมป์เอเชียมาก่อน แต่เราก็เคยเอาชนะมาได้ อีกอย่างที่ห่วงคือ อังคารชอบทำฟาวล์เหมือนที่ไต้หวัน ไปชกแล้วฟาวล์บ่อยเกือบจะถูกจับแพ้ เรื่องนี้ต้องเตือนกันอยู่ตลอด ตอนนี้ขอมองที่เหรียญทองแดงก่อน เพราะหากผ่านอินเดียยังมีเก่งอีกหลายคน ไปทีละขั้นดีกว่า

ด้านการแข่งขัน วันที่ 10 ส.ค. ซึ่งตามกำหนดเดิมแล้วจะเป็นการชก รุ่น 64 และ 69 กก. ซึ่งจะมีนักชกไทยสองคนคือ "สองพี่น้องบุญจำนงค์" มนัส และ นน ขึ้นแข่งขันนั้น ปรากฏว่านักชกไทยทั้งสองคนได้บายจึงไม่ต้องชก และทำให้ในวันนั้นจะไม่มีนักชกไทยขึ้นเวทีแต่อย่างไร ส่วนวันที่ 11 ส.ค. ก็เช่นกัน เพราะเป็นการชก รุ่น 57 และ 60 กก. ซึ่งสองนักชกไทย สายลม อาดี และ พิชัย สาโยธา ได้บายจึงไม่มีนักชกไทยแข่งขัน แต่จะไปมีเพียง สมจิตร จงจอหอ เพียงคนเดียวที่จะชก วันที่ 12 ส.ค. และวันที่ 13 ส.ค. ก็จะมีเพียง อำนาจ รื่นเริง เพียงคนเดียวของไทยที่ชกรอบแรกเป็นคู่ปิดท้าย




-- Edited by webmaster at 13:39, 2008-08-11